ซื้อสินค้า OTOP ลดหย่อนภาษีปี 2568 ได้จริงหรือไม่?
ในปี 2568 รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อส่งเสริมสินค้า OTOP ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น มาตรการนี้ยังเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้า OTOP มาลดหย่อนภาษีได้ หลายคนอาจสงสัยว่าเรื่องนี้จริงหรือไม่ และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างไรถึงจะได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี เราจะพาคุณไปหาคำตอบไปด้วยกัน…
ภาษีคืออะไร?
ภาษี คือ รายได้ที่รัฐบาลจัดเก็บจากประชาชนและธุรกิจ เพื่อนำมาใช้พัฒนาประเทศและให้บริการสาธารณะ เช่น การสร้างถนน โรงพยาบาล และระบบสาธารณูปโภค โดยแบ่งออกเป็นหลายประเภท เช่น ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และภาษีเงินได้นิติบุคคล
ใครต้องจ่ายภาษีบ้าง?
ผู้ที่ต้องจ่ายภาษีขึ้นอยู่กับประเภทของภาษีที่กำหนด ตัวอย่างเช่น
- บุคคลธรรมดา ผู้มีรายได้จากเงินเดือน ค่าแรง หรือรายได้อื่น ๆ
- นิติบุคคล ธุรกิจที่จดทะเบียนบริษัทและมีกำไรจากการดำเนินงาน
- ผู้บริโภค ทุกคนที่ซื้อสินค้าหรือบริการที่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม
เงินเดือนเท่าไหร่ถึงต้องจ่ายภาษี?
สำหรับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ผู้ที่มีรายได้รวมทั้งปีเกินกว่า 120,000 บาท หรือประมาณ 10,000 บาทต่อเดือน ต้องเริ่มยื่นแบบภาษี หากรายได้เกินเกณฑ์ที่กำหนดอาจต้องชำระภาษีตามอัตราที่กำหนด โดยมีการหักลดหย่อนตามประเภทต่าง ๆ เช่น ค่าลดหย่อนส่วนตัว ค่าลดหย่อนบุตร และค่าลดหย่อนประกันสุขภาพ
ลดหย่อนภาษี 2568 ซื้อ OTOP แล้วลดหย่อนได้จริงหรือ?
รัฐบาลในปี 2568 ได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการสนับสนุนสินค้า OTOP (หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์) โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้า OTOP ไปลดหย่อนภาษีได้ โดยมีเงื่อนไขสำคัญดังนี้
- ต้องเป็นสินค้าที่ขึ้นทะเบียน OTOP อย่างถูกต้อง สินค้าต้องมีสัญลักษณ์หรือเอกสารยืนยันว่าเป็นสินค้า OTOP ที่ได้รับการรับรอง
- ยอดใช้จ่ายที่ลดหย่อนได้ ค่าใช้จ่ายสูงสุดที่นำไปลดหย่อนได้คือ 30,000 บาทต่อปี
- ใบเสร็จรับเงินที่ชัดเจน ผู้ซื้อจะต้องเก็บใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีเพื่อยื่นขอลดหย่อนภาษี
เริ่มใช้จ่ายเมื่อไหร่ถึงเมื่อไหร่ถึงจะลดหย่อนภาษีได้?
ระยะเวลาที่ใช้ e-Receipt ซื้อของในไทย ตั้งแต่ 16 ม.ค. – 28 ก.พ. 2568 ได้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท (ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.rd.go.th/fileadmin/user_upload/news/2567thai/news5_2568.pdf)
สรุป
การซื้อสินค้า OTOP ในปี 2568 สามารถลดหย่อนภาษีได้จริง แต่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนดอย่างเคร่งครัด เช่น การเก็บใบเสร็จและการซื้อสินค้าที่ขึ้นทะเบียน OTOP อย่างถูกต้อง สำหรับผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษี นี่เป็นโอกาสดีที่จะสนับสนุนสินค้าชุมชนและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นไปพร้อมกัน